Tuesday 27 November 2007

A black knight on a golden Vigo

เรื่องต่อจาก It’s not easy to find some friends for drink

หลังจากที่ผมต้องเผชิญหน้ากับช่วงชีวิตที่ตกอับขั้นสุดขีด คือไม่มีเพื่อนคนใดมากินเบียร์กับผมเลย ทำให้จิตใจรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ และสับสนวุ่นวายไปหมด :) “นี่เราไม่มีใครคบเลยเหรอ” ได้แต่รำพึงรำพันกับตัวเอง “เหลือใครอีกว่ะ ที่ยังไม่ได้ชวน” ยัง... ยังไม่สิ้นความพยายาม...

“เช้าแล้วพี่ เหล้าก็หมดล่ะ ไปนอนกันเถอะ” ผมชวนอัศวินตัวดำของผม เข้าไปนอนหลับพักผ่อน หลังจากที่ดัมพ์กันมาเกือบค่อนคืน…

ขณะที่พยายามใช้ความคิดเพื่อเค้นหาเพื่อนที่จะชวนมากินเบียร์ด้วยกัน ทันใดก็นึกถึงชายคนหนึ่งเข้ามาในสมอง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะบ้านพี่เค้าอยู่ที่ อ.ฝาง โน้นคงมาไม่ได้อยู่แล้ว แต่เอาน่าลองโทรหาแกดูสักหน่อย
“ว่าไง กูอยู่เชียงใหม่ มางานแต่งงานเพื่อน มึงจะขึ้นมาเหรอ”

ในใจนั้น ดีใจเป็นอย่างมาก ยังไม่ทันพูดอะไร แกก็พูดต่อว่า
“เฮ้ย ไปกินเหล้ากันที่ไหนดีว่ะ มึงหาร้านให้หน่อยดิ หาฟังเพลงเพื่อชีวิต เต้นกันมันส์ๆ นะโว้ย”

เด็ดขาดและชัดเจนจริงๆ สำหรับ ไตรภพ บุญคลี่ หรือ พี่ภพ รุ่น31 เป็นพี่เกลอที่แสนรู้ใจ รู้จักมาตั้งแต่ปี 38 เป็นรุ่นพี่ที่คณะเกษตรฯ อยู่หอเดียวกัน อยู่พืชไร่เหมือนกัน เล่นรักบี้ด้วยกัน และออกค่ายอาสาฯ ด้วยกันตลอด เหลือเพียงอย่างเดียว ยังไม่ตกเป็นของกันและกัน ฮ่า กับพี่ภพก็เคียงบ่าเคียงไหล่กินเหล้าด้วยกันมาอย่างยาวนาน จวบจนทุกวันนี้ ตลอดเวลาที่คบกันมาก็มีเรื่องฮ่าๆ กับแกตลอด ทั้งเรื่องไก่เคเอฟซีครั้งแรกในชีวิตผม หรือเรื่องรถติดหล่มที่บึงบอระเพ็ด แล้ววันหลังจะเล่าให้ฟัง

เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของพี่ภพ ผมจึงเปลี่ยนแนวจากลานเบียร์เป็นผับเพื่อชีวิต และคงเป็นที่อื่นไม่ได้นอกจาก ร้าน “ตะวันแดง สาดแสงเดือน”
“มีร้านดี เหล้าดี มีเพื่อนดี มีดนตรี ดีด้วย... ช่วยไม่ได้ ต้องดื่มโลก... ดื่มเวลา... ให้สาใจ... ดื่มกันให้... ตะวันแดง... สาดแสงเดือน...”

พี่ภพเป็นผู้ชายตัวเล็ก ผิวดำสนิท ซึ่งผิดวิสัยของคนเหนืออย่างแรง วันนี้แกขับรถวีโก้สีทองคันใหม่มาอวดโฉมด้วย และไม่ได้มาคนเดียว พา น้องโอ ว่าที่เจ้าสาว ซึ่งจะแต่งงานกันวันที่ 7 ธ.ค. นี้ และพี่รา รุ่น31 อดีตครูสอนมวยผมมาด้วย แต่มาเจอกันคราวนี้พี่ราหมดสภาพนักมวยไปแล้วเรียบร้อย
ในค่ำคืนนี้เราสี่คนแดนซ์กันกระจาย โยกคอกันอย่างเมามันส์ ทั้ง คาราวาน คารบาว พงษ์เทพ พงษ์สิทธิ์ ซูซู มาลีฮวนน่า มากันอย่างครบครัน แต่เพลงที่โดนสุดๆ ต้องเป็นเพลงนี้ครับ
“เปรียบกับพี่ เป็นแค่ขอนไม้…” ฮ่าๆ ผมตะโกนร้องเพลงนี้เสียงดังมาก คงได้ยินไปไกลถึงไหนต่อไหน :)

หลังจากร้านปิด เราก็เคลื่อนย้ายขบวนไปกินกันต่อที่บ้านพี่สาวน้องโอ ที่สันทราย พี่รากินต่อไม่ไหว ก็ขอตัวไปนอนก่อน ส่วนน้องโอก็ขอพักผ่อนก่อนเช่นกัน จึงเป็น “สองพี่น้อง” ที่รู้ใจ ดัมพ์เหล้ากันเพียวๆ ที่ลานหญ้าหน้าบ้าน กินกันจนกระทั่ง

“แสงตะวันสีแดง... สาดส่องไล่แสงเดือน... ที่กำลังลาลับ จากขอบฟ้าไป”

2 comments:

boy said...

... จะไม่แลมองเรือลำไหน โอบกอดไว้แม้คลื่นลูกใหญ่ซัดมา
(อยากร้องด้วย...^^/)

Unknown said...

ไปคาราโอเกะคราวหน้า เดี๋ยวร้องเพลงนี้ด้วยกัน