Tuesday 13 November 2007

Charles’s Wedding

วันเสาร์ที่ผ่านมา (Nov 10) ได้ไปงานแต่งงาน ไอ้ชาญ น้องรุ่น 33 ที่กำแพงเพชร งานนี้เกษตร มช. ไปกันหลายคนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ก็เฮฮาปาร์ตี้ สนุกสนานกันเต็มที่เหมือนเคย ผมก็ได้ขึ้นไปโชว์ลูกคอเหมือนทุกงานที่ผ่านมา เล่นเอาเสียงแหบไปสองสามวันเหมือนกัน เสียงดีก็อย่างนี้แหละครับ ถูกเชิญขึ้นไปร้องเพลงบ่อย :)

งานนี้ขับรถเดินทางไปจากกรุงเทพ ไปกับไอ้นัท ไอ้บอมบ์ ต้องออกเดินทางตอนบ่ายโมง ทำให้ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษตอนบ่าย ซึ่งอาจารย์มีแบบฝึกหัดให้ทำเก็บคะแนนด้วย ผมจึงวานให้หมิวช่วยทำให้ ปรากฏว่าพอเลิกเรียนตอนเย็นก็โทรมาบอกด้วยเสียงอ่อยๆ ว่า “พี่ต๋อง ขอโทษนะค่ะ ทำได้ 5 เต็ม 10 เองคะ” ก็ได้แต่กัดฟันบอกหมิวกลับไปว่า ไม่เป็นไรแค่ทำให้ก็ดีแล้วล่ะ ได้คะแนนเท่าไหร่ช่างมัน แต่ก็นึกในใจว่า ทำไมได้น้อยจังเลยหนอ (เว่าเล่นเด้อ)

ระหว่างเดินทางไปกำแพงเพชร ไอ้ดามพ์ กับไอ้ดานิเอล เพื่อนรุ่นเดียวกัน ซึ่งทำงานอยู่ที่นครสวรรค์ ก็ขอนัดเจอกันหน่อย โดยนัดเจอกันที่ร้าน “แซ่บอีหลี” ซึ่งก็สมกับชื่อของร้าน อร่อยจริงๆ ทั้งลาบเป็ด ก้อยเนื้อ ต้มแซ่บเครื่องใน ทำได้รสชาติแบบอีสานขนานแท้เลยทีเดียว ก็แวะกินกันอยู่พักใหญ่ หมดเบียร์ไปเจ็ดขวด ไอ้ดามพ์ ทำท่าจะสั่งเบียร์เพิ่มอีก ไอ้นัท เห็นท่าว่าเดี๋ยวจะยาวเกินไป จึงต้องเบรกไว้ก่อนเพราะยังต้องเดินทางต่อ เดี๋ยวจะไปทันงานแต่งงาน

งานนี้ ไตรภพ บุญคลี่ รุ่นพี่รุ่น 31 ที่รู้จักกันและสนิทกันมานานแสนนาน ก็ได้สร้างวีรกรรมอีกแล้ว (เช่นเคย) คือหลังจากงานแต่งก็พากันไปกินเหล้ากันต่อที่ผับแห่งหนึ่ง ไปกันเกือบ 30 คนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง พอประมาณเที่ยงคืนผม ไอ้นัท ไอ้บอมบ์ พร้อมกับน้องบางส่วน ก็กลับมาดูบอลกันต่อที่โรงแรมก่อน ตอนนั้นเห็น พี่ภพ ก็สนุกสนานดีอยู่จึงไม่ได้ชวนแกกลับด้วยกัน ปล่อยให้แกกลับน้องๆ คนอื่น จากนั้นประมาณตีหนึ่งกว่า ไอ้เชื้อ น้องรุ่น 35 ก็โทรมาบอกว่า “พี่ช่วยโทรหาพี่ภพให้หน่อย ไม่รู้ว่าแกหายตัวไปไหน” ผมก็โทรไตรภพอยู่ห้าครั้ง ไม่มีคนรับสาย แต่ก็บอกกับ ไอ้เชื้อ เอาไว้ถ้าหาไม่เจอยังไงก็ให้โทรมาผมบอกอีกที จะได้ออกไปช่วยหาอีกแรง เป็นห่วงแกเมาแล้วเป็นอย่างงี้ตลอด แต่หลังจากนั้น ไอ้เชื้อ ก็ไม่โทรมาอีก คิดว่าก็คงเจอกันแล้วพอบอลจบก็นอนหลับไปเลย

ปรากฏว่าตอนสายๆ วันรุ่งขึ้น พอออกมากินกาแฟกันที่หน้าโรงแรม เห็นไตรภพนั่งหน้าหงิก ทำท่างอนใส่ ก็ถามแกว่า เป็นไรพี่ ทำท่าไม่ยอมคุยด้วยอยู่พักนึง จึงซื้อเบียร์มาให้แกกิน แกถึงยอมคุยด้วย แล้วแกก็เล่าว่า พอแกไม่เห็นพวกผม ที่ออกมาดูบอลก่อน แกก็เลยออกมาโทรศัพท์ที่ศาลาหน้าผับ แล้วก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ตีสี่กว่าแล้ว ปรากฏว่าไม่เหลือใครเลย โทรมาหาผมก็ไม่ยอมรับสาย คิดว่าคงพึ่งใครไม่ได้แล้ว จึงตัดสินใจเดินกลับมาที่โรงแรม กว่าจะถึงก็ปาเข้าไปเกือบหกโมง ฟังแล้วก็ได้แต่หัวเราะด้วยความสะใจและสมน้ำหน้าแก ก็ แหม!!! จากผับมาถึงโรงแรมก็เกือบห้ากิโล ไกลเหมือนกัน สงสัยจะลดน้ำหนักเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว และซ้อมเดินแห่ขันหมากไว้มั้ง 555

ไตรภพ บุญคลี่ แล้วเจอกันวันงานแต่งงานเด้อ (Dec 7)

No comments: